พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมการพัฒนาพื้นที่ย่านมักกะสันเพื่อเป็นปอดของ กทม. ได้รับทราบผลการประเมินมูลค่าการเช่าที่ดินย่านมักกะสันของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จากกระทรวงการคลัง 497 ไร่ ระยะ 30 ปีแล้ว โดยมีข้อมูลจาก 3 ฝ่าย ฝ่ายแรกจากที่ปรึกษา รฟท.ประเมินค่าเช่าไว้ที่ 6.1 หมื่นล้านบาท ขณะที่ที่ปรึกษาของกระทรวงการคลังประเมินที่ 5.6 หมื่นล้านบาท และสุดท้ายเป็นกรณีการซื้อกรรมสิทธิ์จากการ รฟท. และโอนให้กระทรวงการคลังทันทีจะคิดเป็นมูลค่า 5.2 หมื่นล้านบาท แต่ถ้าเป็นวิธีการเช่า 30 ปีแรก จะคิดมูลค่า 5 หมื่นล้านบาท
พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า ได้สั่งการให้ที่ปรึกษาของ รฟท.และกระทรวงการคลังต้องเร่งหารือปรับฐานข้อมูลให้ตรงกัน ทั้งเรื่องวงเงินการประเมิน และระยะเวลาการรื้อถอนการก่อสร้าง ซึ่ง รฟท.คิดระยะเวลาการเช่า 30 ปี และการรื้อถอนอีก 4 ปี แต่กระทรวงการคลังต้องการคิดเวลาการเช่า 30 ปี และการรื้อถอนกับก่อสร้าง 7 ปี หากทั้ง 2 ฝ่ายได้ข้อสรุป จะนำผลไปเสนอคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือซุปเปอร์บอร์ด ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อขอมติเห็นชอบ จากนั้นจึงจะกำหนดตารางเวลาการส่งมอบพื้นที่ รวมถึงการย้ายศูนย์ซ่อมรถไฟ บ้านพักเจ้าหน้าที่เพื่อเคลียร์พื้นที่ให้พร้อมต่อไป
"ในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ กระทรวงการคลังกับ รฟท.จะหารือเพื่อหาข้อสรุปว่าค่าเช่าที่ดินจะมูลค่าเท่าไร รวมถึงหาข้อยุติในระยะเวลาการรื้อย้ายและการก่อสร้างด้วย ซึ่งส่วนตัวมั่นใจการนำที่ดินมักกะสันไปให้กระทรวงการคลังเช่า จะช่วยปลดหนี้ให้ รฟท.ได้ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท แน่นอน" พล.อ.อ.ประจิน กล่าว
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า ในวันที่ 19 มิถุนายน จะหารือเรื่องการปรับตัวเลข และฐานข้อมูลสำหรับการเช่าที่ดิน และนำข้อมูลทั้งหมดเสนอเข้าที่ประชุมร่วมกับกระทรวงการคลังในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ จากนั้นจะหารือเรื่องกรอบระยะเวลาในการส่งมอบพื้นที่ รวมถึง รฟท.จะของบประมาณบางส่วนล่วงหน้าจากกระทรวงการคลัง เพื่อใช้ในการรื้อย้าย และจัดเตรียมพื้นที่สำหรับการส่งมอบให้กระทรวงการคลังด้วย
ที่มา : นสพ.มติชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น