โดยการร่วมลงทุนครั้งดังกล่าวจะแล้วเสร็จกลางเดือนมิถุนายนนี้ สำหรับเม็ดเงิน 4,300 ล้านบาท ดังกล่าว PropertyGuru จะนำมาพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพิ่มความเร็ว พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ และลงทุนด้านการตลาด เพื่อขยายธุรกิจในภูมิภาค และตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านสื่ออสังหาฯ ออนไลน์ในระดับภูมิภาค
สำนักงานของ PropertyGuru ในภูมิภาค ประกอบด้วย PropertyGuru.com.sg ประเทศสิงคโปร์ ครองส่วนแบ่งตลาด 90%, PropertyGuru.com.my ประเทศมาเลเชีย ครองส่วนแบ่งตลาด 30%, DDProperty.com ประเทศไทย ครองส่วนแบ่งตลาด 60% และ Rumah.com ประเทศอินโดนีเซีย ครองส่วนแบ่งตลาด 50% โดยมียอดผู้เข้าชมเว็บไซต์มากกว่า 11 ล้านคนต่อเดือน มียอดเพจวิว 104 ล้านครั้ง และมีอัตราการเติบโตของจำนวนผู้ใช้งานกว่า 28% ต่อปี
ปัจจุบัน มีอัตราการค้นหาอสังหาฯ ผ่านมือถือสูงถึง 52% จากการค้นหาทั้งหมด มูลค่าการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ผ่าน PropertyGuru คิดเป็นมูลค่าประมาณ 14 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ต่อปี หรือประมาณ 10% ของมูลค่าการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดในภูมิภาคนี้
นายณพงศ์ กล่าวเพิ่มว่า บริษัทจะได้รับอานิสงส์จากการร่วมทุนในครั้งนี้ด้วย ซึ่งการลงทุนพัฒนาระบบจะต้องพัฒนาในทุกสาขาในภูมิภาคเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลกัน นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะได้เม็ดเงินการการทำการตลาดมากขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้ และเพิ่มความสนใจแก่ประชาชนทั่วไปให้มาเข้าชมเว็บไซต์ DDProperty มากขึ้น จากปัจจุบันมีผู้เช้าชม 3.5 ล้านคนต่อเดือน มีอสังหาฯ ฝากขายกว่า 2 แสนรายการ มูลค่ารวมกว่า 6 แสนล้านบาท และคาดว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในไทยเป็น 80-90% ภายใน 3-5 ปี เร็วขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่วางเอาไว้ 5-10 ปี โดยตั้งเป้ารายได้ในปี 2558 จำนวน 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 20%
Cr.http://manager.co.th/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น