วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

แท็กซี่ทวง "ประจิน" ขึ้นค่ามิเตอร์ 5% อ้างต้นทุนเพิ่มขู่อาจปฏิเสธผู้โดยสาร


นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่กรุงเทพฯเตรียมไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ขอให้ยืนยันปรับขึ้นค่าโดยสารระยะสองอีก 5% ตามที่เคยตกลงกันไว้ เนื่องจากตอนนี้ผู้ขับรถแท็กซี่ได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพสูงขึ้น และต้นทุนค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เครือข่ายจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับความจำเป็นในการปรับค่าโดยสาร ซึ่งนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 ที่กระทรวงคมนาคมอนุมัติขึ้นค่าโดยสารรอบแรก พบว่าผู้ขับรถแท็กซี่มีต้นทุนการขับเพิ่มขึ้น หลังกระทรวงพลังงานปรับราคาก๊าซเอ็นจีวีเพิ่มขึ้นกิโลกรัมละ 1 บาท จาก 11.50 บาท เป็น 12.50 บาท ซึ่งส่งผลกระทบให้คนขับแท็กซี่มีต้นทุนเพิ่มอีก 70 บาทต่อกะ 12 ชั่วโมง หรือวันละ 140 บาท ทำให้การขึ้นค่าโดยสารไม่ได้ช่วยให้แท็กซี่มีรายได้เพิ่มขึ้นเลย

ที่ผ่านมา แม้กระทรวงคมนาคมจะขึ้นค่าโดยสารไปแล้วรอบแรก 8% แต่ก็ไม่ได้ทำให้มีรายได้เพิ่มนัก เพราะกะหนึ่งมีรายได้เพิ่ม 100 บาท แต่ต้นทุนค่าก๊าซเพิ่มขึ้นไปแล้ว 70 บาท เหลือ 30 บาท ทำให้แต่ละวันเหลือเงินเฉลี่ยไม่ถึง 300 บาท น้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำด้วยซ้ำ" นายวิฑูรย์กล่าว

นายวิฑูรย์กล่าวว่า ภายหลังขึ้นค่าโดยสาร ผู้ประกอบการ กลุ่มสหกรณ์ หรือแท็กซี่ส่วนบุคคล ได้ปรับปรุงการให้บริการ ทั้งคุณภาพตัวรถ เบาะนั่ง เครื่องปรับอากาศ ตามมาตรฐานกรมการขนส่งทางบกกำหนด และยอดร้องเรียนการปฏิเสธผู้โดยสารผ่านกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ก็ลดลง ดังนั้นในการประชุมวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ ที่กระทรวงคมนาคมจะมีการพิจารณาเรื่องค่าครองชีพ จึงต้องการให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาขึ้นค่าโดยสารตามที่เคยตกลงไว้ด้วย

"หากคมนาคมไม่ยอมอนุมัติปรับราคารอบสอง อยากถามว่าการอ้างเศรษฐกิจไม่ดี ประชาชนมีค่าครองชีพสูงขึ้น ผู้ขับแท็กซี่ไม่ได้รับผลกระทบหรือเดือดร้อนจากเศรษฐกิจเหมือนคนกลุ่มอื่น หรือกลายเป็นกลุ่มที่ต้องแบกรับภาระเอง และที่สำคัญเมื่อผลักดันให้ปรับปรุงบริการ แต่หากไม่ยอมให้ขึ้นราคา ต่อไปผู้โดยสารเรียกไปเส้นทางที่รถติดหรือไม่คุ้มค่า อาจมีการปฏิเสธกลับไปเป็นปัญหาเดิมอีก" นายวิฑูรย์กล่าว




ที่มา : นสพ.มติชน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น